ในปัจจุบัน หลายๆคนเริ่มหันมาสนใจ การออมเงิน การลงทุนสร้างความมั่งคั่งกันมากขึ้น โดยเริ่มมองหาการลงทุนรูปแบบใหม่ที่ได้ผลตอบแทนมากกว่าการฝากเงินในบัญชีกับธนาคารเพื่อรอรับดอกเบี้ย หรือหากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีฝันอยากจะเป็นเจ้าของกิจการ แต่ยังมีเงินไม่มากพอ หรือมีเงินทุนเพียงพอแล้ว แต่ยังขาดความรู้ความชำนาญในการทำธุรกิจ

“หุ้น” จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ทำให้เรามักจะได้ยินคำพูดที่ติดปากกันว่า “เล่นหุ้น” หรือบางคนก็พูดว่า “ลงทุนในหุ้น” แต่ยังมีผู้คนอีกมากมาย โดยเฉพาะมือใหม่ที่สนใจเรื่องหุ้น แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจว่า หุ้น คืออะไรกันแน่ ดังนั้น ก่อนเราจะไปเล่นหุ้น หรือ ลงทุนในหุ้น จะพาไปรู้จักกันก่อนว่า หุ้นคืออะไร

หุ้น คือ สิ่งที่แสดงความเป็นเจ้าของกิจการในบริษัทต่างๆ ตามสัดส่วนหุ้นที่เราร่วมเป็นเจ้าของธุรกิจนั้น ถ้าเรามีหุ้นหรือซื้อหุ้นของกิจการนั้นเท่ากับว่าเราเข้าไปร่วมเป็นเจ้าของกิจการกับบริษัท ถ้ามีหุ้นในสัดส่วนที่มากก็มีความเป็นเจ้าของมากตามไปด้วย เช่น ร่วมกันเปิดร้านซูชิกับเพื่อน แล้วเราถือหุ้นอยู่ 80% และเพื่อนอีกคนมีหุ้น 20% ดังนั้นเวลาได้กำไร ขาดทุน หรือ ตัดสินใจอะไรต่างๆ เราจะก็มีสิทธิมากกว่าตามสดส่วนหุ้นที่ถืออยู่นั่นเอง

และหากในอนาคต ร้านซูชินี้ขายดีมาก ทั้ง 2 คน จึงเห็นโอกาสดีที่จะขยายกิจการ โดยจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติม แต่ยังมีเงินทุนไม่เพียงพอเพราะต้องใช้เงินจำนวนมาก นอกเหนือจากการกู้ยืมธนาคารที่มีภาระต้องเสียดอกเบี้ยแม้ว่าธุรกิจจะดีหรือไม่ก็ตาม เราสามารถมองหาคนที่จะมาร่วมหุ้นเพิ่มเติม โดยนำบริษัทซูชินี้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อระดมเงินจากขายหุ้นของบริษัทให้แก่ประชาชนทั่วไปที่สนใจ เพื่อนำเงินมาลงทุนในการขยายสาขาต่อไป โดยหุ้นทั้งหมดของบริษัทซูชินี้ ก็จะสามารถซื้อขายกันได้ในตลาดหลักทรัพย์ฯ 

หลังจากทราบที่มาแบบง่ายๆของหุ้นกันแล้ว  หุ้นยังให้ผลตอบแทนจากการลงทุน และสิทธิแก่ผู้ลงทุนในหุ้น ดังต่อไปนี้

1. มีโอกาสได้รับส่วนแบ่งจากผลกำไร (ปันผล)จากผลการดำเนินงาน ซึ่งอาจจะอยู่ในรูป เงินปันผล หรือ หุ้นปันผล

2. มีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) ผู้ลงทุนมีโอกาสจะได้รับผลกำไรหรือขาดทุนจากการซื้อขายหุ้นและถ้าเป็นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำไรจากการขายหลักทรัพย์(capital gain) จะได้รับการยกเว้นภาษี

3. มีโอกาสได้รับผลตอบแทนได้สิทธิในรูปแบบอื่นๆ เช่น สิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (Right Offering) บริษัทมักจะให้สิทธิในการจองซื้อหุ้นใหม่แก่ผู้ถือหุ้นเดิมก่อน เมื่อมีการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน

4. มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของกิจการตามสัดส่วนการถือครอง สามารถเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อใช้สิทธิออกเสียงเพื่อลงคะแนนเสียงในการตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญของบริษัท เช่น การจ่ายเงินปันผล การแต่งตั้งกรรมกาการเพิ่มทุน

อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น อาจมีความไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของบริษัทนั้นๆ หากเศรษฐกิจซบเซา บริษัทมีกำไรลดลง นักลงทุนอาจไม่ได้รับเงินปันผล หรือได้รับในระดับต่ำ หรืออาจขายหุ้นได้ในราคาต่ำกว่าที่คาดไว้ ซึ่งถือเป็น “ความเสี่ยง” ที่สำคัญของการลงทุนในหุ้น ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลต่างๆ อย่างละเอียดรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน


สนใจเปิดบัญชีลงทุนกับ บล.กรุงศรี พัฒนสิน คลิกที่นี่