ประกาศความเป็นส่วนตัว



ประกาศความเป็นส่วนตัว


บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") เล็งเห็นถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ตามที่นิยามไว้ข้างล่างนี้)

ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ("ประกาศความเป็นส่วนตัว") ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังต่อไปนี้

(1) ลูกค้าของบริษัท

• กรณีลูกค้าบุคคลธรรมดา ได้แก่ ลูกค้าบุคคลธรรมดาของบริษัท ทั้งผู้ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต ลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าในอดีต รวมถึงบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าบุคคลธรรมดาดังกล่าว

• กรณีลูกค้านิติบุคคล ได้แก่ พนักงาน บุคลากร เจ้าหน้าที่ ผู้แทน ผู้ถือหุ้น บุคคลผู้มีอำนาจ กรรมการ ผู้ติดต่อ ตัวแทน และบุคคลธรรมดาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคลของบริษัท ทั้งผู้ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต ลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าในอดีต

(2) บุคคลที่ไม่ใช่ลูกค้าของบริษัท ได้แก่

 • บุคคลธรรมดาที่เคยเป็น เป็น หรือจะเป็นผู้ให้บริการภายนอกหรือคู่ค้าของบริษัท รวมถึงบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่เคยเป็น เป็น หรือจะเป็นผู้ให้บริการภายนอกหรือคู่ค้าของบริษัท

 • บุคคลธรรมดาอื่นใดที่ติดต่อกับบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ ซึ่งรวมถึงบุคคลที่ได้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นของบริษัท หรือเข้าใช้บริการที่สาขาหรือสำนักงานของบริษัท เป็นต้น

 ซึ่งต่อไปในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ บุคคลธรรมดาจะรวมเรียกว่า "ท่าน" ส่วนลูกค้าบุคคลธรรมดาและลูกค้านิติบุคคลจะรวมเรียกว่า "ลูกค้า"

 ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอาจได้มาจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท ตลอดจนเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile Applications) ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (call center) กิจกรรมและนิทรรศการ ช่องทางการติดต่อสื่อสารทางออนไลน์ รวมถึงช่องทางหรือวิธีการอื่นใด

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ

"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับท่านซึ่งระบุถึงตัวท่านหรือทำให้สามารถระบุตัวท่านได้ โดยบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านด้วยวิธีการต่างๆ กล่าวคือ บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากท่านโดยตรง (เช่น ผ่านทางที่ปรึกษาทางการเงิน พนักงานขาย ฝ่ายการตลาด เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile Applications) หรือศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (call center) ของบริษัท เป็นต้น) หรือจากแหล่งอื่นๆ โดยอ้อม (เช่น สื่อสังคม (Social Media) แพลตฟอร์มออนไลน์ของบุคคลภายนอก หรือแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่นๆ เป็นต้น) หรือผ่านบริษัทในเครือ ผู้ให้บริการ พันธมิตรทางธุรกิจ หน่วยงานทางการ หรือบุคคลภายนอก (เช่น ผู้รับฝากทรัพย์สินที่เป็นบุคคลภายนอก ผู้รับฝากทรัพย์สินช่วง และนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ เป็นต้น) ทั้งนี้ ประเภทของข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของท่านกับบริษัท หรือความสัมพันธ์ของลูกค้ากับบริษัท หรือบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าต้องการจากบริษัท

"ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว" หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายจัดประเภทเป็นข้อมูลที่มีความอ่อนไหว โดยบริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่มีความอ่อนไหวไปยังต่างประเทศก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือเป็นกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน

กรณีลูกค้าบุคคลธรรมดา

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้

     (ก) ข้อมูลส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล เพศ อายุ อาชีพ ตำแหน่งงาน เงินเดือน รายได้ แหล่งที่มาของรายได้ ที่ทำงาน ตำแหน่ง การศึกษา สัญชาติ วันเกิด สถานภาพการสมรส สถานะการเป็นบุคคลล้มละลาย ข้อมูลบนบัตรที่ออกโดยรัฐบาล (เช่น หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ เป็นต้น) ลายมือชื่อ การบันทึกเสียง การบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ รูปถ่าย การบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด ทะเบียนบ้าน และข้อมูลประจำตัวอื่นๆ

     (ข) ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่อีเมล (email address) และรหัสประจำตัวสำหรับการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ

     (ค) ข้อมูลบัญชีและข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลบัตรเครดิตและบัตรเดบิต หมายเลขบัญชีและประเภทของบัญชี ข้อมูลพร้อมเพย์ สินทรัพย์หมุนเวียน รายได้และค่าใช้จ่าย ตลอดจนข้อมูลการชำระเงิน และข้อมูลการสมัครใช้บริการและผลิตภัณฑ์

     (ง) ข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น ประเภทของผลิตภัณฑ์ (อาทิ หลักทรัพย์ ตราสารอนุพันธ์ ตราสารหนี้ กองทุนรวม) ราคาและปริมาณ หมายเลขคำสั่งซื้อ เงื่อนไข (ถ้ามี) ประวัติการซื้อขายและยอดคงเหลือ ประวัติการชำระเงินและการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ของท่าน งบการเงิน หนี้สิน ภาษี รายได้ กำไรและเงินลงทุน แหล่งที่มาของความมั่งคั่งและเงินทุน การเป็นตัวแทน ข้อมูลการซื้อขาย ประวัติการผิดนัด มูลค่าของหลักประกัน (margin balance) และข้อมูลเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (margin loan)

     (จ) ข้อมูลทางเทคนิค เช่น เลขที่อยู่ไอพีหรืออินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (IP address) เว็บบีคอน (web beacon) ล็อก (Log) ไอดีอุปกรณ์ (Device ID) รุ่นอุปกรณ์และประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลการเข้าถึง ข้อมูลการเข้าใช้งานแบบ single sign-on (SSO) การเข้าสู่ระบบ (Login log) เวลาที่เข้าถึง ระยะเวลาที่ใช้บนหน้าเพจของบริษัท คุกกี้ ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ประวัติการค้นหา ข้อมูลการเรียกดู ประเภทและเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ การตั้งค่าเขตเวลา (Time zone setting) และสถานที่ตั้ง ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีอื่นๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม

     (ฉ) รายละเอียดข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อบัญชี (account identifiers) ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน รหัสประจำตัว (PIN ID code) สำหรับการซื้อขาย ความสนใจและความพึงพอใจ กิจกรรม เป้าหมายการลงทุน ความรู้และประสบการณ์การลงทุน และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (risk tolerance)

     (ช) ข้อมูลการใช้งาน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานของท่านบนเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม การใช้ผลิตภัณฑ์และบริการ และ

     (ซ) ข้อมูลอื่นๆ ที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับ บริษัท เช่น ข้อมูลที่ท่านให้แก่บริษัทในสัญญา แบบฟอร์ม แบบสำรวจหรือแบบสอบถาม หรือข้อมูล ที่เก็บรวบรวมในเวลาที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรมทางธุรกิจ การสัมมนา หรือกิจกรรมทางสังคมของบริษัท

กรณีลูกค้านิติบุคคล หรือ บุคคลที่ไม่ใช่ลูกค้าของบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้

     (ก) ข้อมูลระบุตัวบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล คำนำหน้าชื่อ อายุ เพศ รูปถ่าย ข้อมูลในประวัติส่วนบุคคล การศึกษา ข้อมูลเกี่ยวกับงาน (เช่น สถานะ หน้าที่ อาชีพ ตำแหน่งงาน บริษัทที่ท่านทำงานให้ หรือเป็นพนักงาน หรือถือหุ้นอยู่ เป็นต้น) ข้อมูลบนบัตรที่ออกโดยรัฐบาล (เช่น หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง เป็นต้น) อัตราส่วนการถือหุ้น ลายมือชื่อ การบันทึกเสียง การบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ การบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด ทะเบียนบ้าน และข้อมูลประจำตัวอื่นๆ ของท่าน

     (ข) ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ ประเทศ ที่อยู่อีเมล (email address) และข้อมูลอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

     (ค) ข้อมูลส่วนตัวที่สร้างขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของลูกค้ากับบริษัท เช่น การเปิดบัญชี การบริหารจัดการ การดำเนินงาน การชำระเงิน การชำระบัญชี การประมวลผลและการรายงานในนามของลูกค้า ข้อมูลส่วนตัวดังกล่าวอาจรวมถึงลายมือชื่อและหนังสือติดต่อของท่านกับบริษัท และ

     (ง) ข้อมูลอื่นๆ ที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัท เช่น ข้อมูลที่ท่านให้แก่บริษัทในสัญญา แบบฟอร์ม แบบสำรวจหรือแบบสอบถาม หรือข้อมูลที่เก็บรวบรวมในเวลาที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรมทางธุรกิจ การสัมมนา หรือกิจกรรมทางสังคมของบริษัท

ข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของท่าน ซึ่งบริษัทอาจเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ ได้แก่

     (ก) ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ระบบจดจำใบหน้า ลายนิ้วมือ ม่านตา เป็นต้น) เพื่อวัตถุประสงค์ในการยืนยันตัวตนและพิสูจน์ตัวตนหรือในการทำธุรกรรมใดๆ ของท่านผ่านการใช้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัท

     (ข) ข้อมูลสุขภาพเท่าที่จำเป็นเพื่อการตรวจสอบข้อจำกัดในการสื่อสาร หรือการตัดสินใจ หรือภาวะความบกพร่องทางสุขภาพเพื่อให้บริษัทใช้เป็นข้อมูลในการให้บริการแก่ท่านตามที่กฎหมายกำหนด

     (ค) ข้อมูลประวัติอาชญากรรม เพื่อประโยชน์สาธารณะในการป้องกันและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำต่างๆ ที่ผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงิน การก่อการร้าย หรือการฉ้อโกงประชาชน และ

     (ง) ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ ศาสนา หรือหมู่โลหิต เพียงเท่าที่ปรากฏในบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารประจำตัวของท่าน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการแสดงตัวตนในการทำธุรกรรมกับบริษัทตามที่กฎหมาย กำหนด หรือเพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลที่มีความอ่อนไหวไปยังต่างประเทศเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น โดยจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของท่าน

2. วัตถุประสงค์ที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

     2.1 วัตถุประสงค์ที่บริษัทจำเป็นต้องได้รับความยินยอม

     บริษัทอาศัยความยินยอมของท่านเพื่อ

          (ก) การติดต่อสื่อสารทางการตลาด การเสนอข้อเสนอพิเศษ แคมเปญ เอกสารส่งเสริมการขายที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท กลุ่มของบริษัท และบุคคลภายนอก เฉพาะในกรณีที่บริษัทไม่สามารถอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น เช่น การแนะนำบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใกล้เคียงกับบริการหรือไม่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ที่ท่านมีอยู่

          (ข) การเก็บรวบรวม การใช้ และ/หรือ การเปิดเผย ข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

               (1) ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ระบบจดจำใบหน้า ลายนิ้วมือ ม่านตา เป็นต้น) เพื่อการยืนยันและพิสูจน์ตัวตนหรือในการทำธุรกรรมใดๆ ของท่านผ่านการใช้
               บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัท

               (2) ข้อมูลสุขภาพเท่าที่จำเป็น เพื่อการตรวจสอบข้อจำกัดในการสื่อสาร หรือการตัดสินใจ หรือภาวะความบกพร่องทางสุขภาพ หรือเพื่อการอำนวย
               ความสะดวก เฉพาะในกรณีที่บริษัทไม่สามารถอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น

               (3) ประวัติอาชญากรรม เพื่อการตรวจสอบภูมิหลัง เฉพาะในกรณีที่บริษัทไม่สามารถอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น

               (4) ข้อมูลที่มีความอ่อนไหวซึ่งแสดงอยู่ในเอกสารประจำตัว (เช่น เชื้อชาติ ศาสนา หรือหมู่โลหิต) เพื่อการยืนยันและพิสูจน์ตัวบุคคล เฉพาะในกรณีที่
               บริษัทไม่สามารถอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น

          (ค) การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทางที่อาจจะไม่มีระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอม

          (ง) การเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปวิจัย วิเคราะห์ หรือจัดทำชุดข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับท่านโดยเฉพาะเจาะจง (Profiling) เพื่อประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่านอย่างแท้จริง และ/หรือ ติดต่อท่านเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมแก่ท่านโดยเฉพาะ

     ในกรณีที่บริษัทต้องอาศัยฐานความยินยอมของท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่าน ณ เวลาใดก็ได้ โดยท่านสามารถติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทตามที่ระบุไว้ในข้อ 9 เพื่อถอนความยินยอม ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย และ/หรือการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนที่จะขอถอน

     2.2 วัตถุประสงค์ที่บริษัทอาจดำเนินการโดยอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่นๆ ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

     บริษัทอาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ กล่าวคือ (1) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเข้าทำสัญญาหรือการปฏิบัติตามสัญญากับท่าน (2) เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย (3) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก เพื่อให้สมดุลกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (4) เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล หรือ (5) เพื่อประโยชน์สาธารณะ สำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ

     บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมาย ตามข้อ (1) ถึง (5) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

กรณีลูกค้าบุคคลธรรมดา

     (ก) การติดต่อกับท่านก่อนที่ท่านจะเข้าทำสัญญากับบริษัท

     (ข) การประมวลผลคำขอเปิดบัญชี การดำรงบัญชี และการดำเนินการที่เกี่ยวกับบัญชีของท่าน รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การประมวลผลคำขอหรือการร้องขอบริการหรือผลิตภัณฑ์ การประมวลผลธุรกรรมของท่าน การออกรายงานแสดงความเคลื่อนไหวของบัญชี (account statement) และการดำเนินการและการปิดบัญชีของท่าน

     (ค) การให้บริการแก่ท่าน เช่น นักวางแผน/ที่ปรึกษาทางการเงิน บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์ การรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ การจัดการกองทุนรวม ที่ปรึกษาการลงทุน การให้ยืมและยืมหลักทรัพย์ นายหน้าซื้อขายตราสารอนุพันธ์ การให้คำปรึกษาด้านตราสารอนุพันธ์ และบริการอื่นๆ ที่บริษัทอาจได้รับใบอนุญาตในอนาคต เป็นครั้งคราว และการจัดการเรื่องทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับบริการเหล่านี้

     (ง) การบริหารจัดการเกี่ยวกับการชำระเงินหรือการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการ รวมถึงการยื่นภาษี หรือการขอยกเว้นภาษี

     (จ) การจัดหาผลิตภัณฑ์การลงทุน การเสนอทางเลือกให้แก่ท่าน (รวมถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนของบุคคลภายนอก) เป็นครั้งคราว และการจัดการเรื่องทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์การลงทุนเหล่านี้

     (ฉ) การเจรจา การสื่อสาร หรือการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัท และการบริหารจัดการบัญชีที่ท่านมีอยู่กับบริษัท

     (ช) การป้องกันท่านจากข้อจำกัดบางประการ (เช่น การป้องกันผู้สูงอายุจากการเข้าทำธุรกรรมบางประเภทด้วยตนเอง เพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุมความเสียหาย)

     (ซ) การดำเนินการตามคำสั่งของท่าน หรือการตอบข้อซักถามหรือความคิดเห็นของท่าน และการแก้ไขเรื่องร้องเรียนของท่าน

     (ฌ) การยืนยันตัวบุคคลและการตรวจสอบข้อมูลเครดิต กระบวนการทำความรู้จักลูกค้า (know-your-customer (KYC)) และตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (customer due diligence (CDD)) การตรวจสอบและคัดกรองอื่นๆ และการติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่องที่อาจจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ

     (ญ) การป้องกัน ตรวจจับ และสอบสวนการฉ้อโกง การประพฤติมิชอบ หรือกิจกรรมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ว่าจะได้รับการร้องขอจากหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลหรือไม่ และการวิเคราะห์และบริหารความเสี่ยง

     (ฎ) การปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ กฎเกณฑ์ แนวทาง คำสั่ง คำแนะนำ และการร้องขอจากศาล หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาษีอากร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หรือหน่วยงานอื่นๆ หรือหน่วยงานกำกับดูแล (ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ) เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแห่งประเทศไทย บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทสำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกรมสรรพากร เป็นต้น

     (ฏ) การจัดการโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท การควบคุมภายใน การตรวจสอบภายใน และการดำเนินธุรกิจ และการปฏิบัติตามนโยบายและขั้นตอนของบริษัทที่อาจจำเป็นโดยกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ รวมถึงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมความเสี่ยง การรักษาความปลอดภัย การตรวจสอบ การเงินและการบัญชี ระบบต่างๆ และความต่อเนื่องทางธุรกิจ

     (ฐ) การจัดการหรือการสอบสวนเรื่องร้องเรียน ข้อเรียกร้อง หรือข้อพิพาทใดๆ

     (ฑ) การติดต่อสื่อสารทางการตลาด การให้ข้อมูล ข้อเสนอพิเศษ แคมเปญ และเอกสารส่งเสริมการขายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท บริษัทในเครือและบริษัทย่อยของบริษัท และบุคคลภายนอก

     (ฒ) การพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ และการให้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันแก่ท่านเกี่ยวกับบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นครั้งคราว

     (ณ) การทำวิจัย การวางแผนและการวิเคราะห์ทางสถิติ การวิเคราะห์ด้านเครดิต และการวิเคราะห์ความเสี่ยง ตัวอย่างเช่น ในด้านวงเงินลงทุนและพฤติกรรมการลงทุนของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัท

     (ด) การจัดโครงการหรือกิจกรรมส่งเสริมการขาย การประชุม การสัมมนา และการเยี่ยมชมบริษัท (รวมถึงการใช้ภาพถ่ายของท่านที่ถูกถ่ายขึ้นในกิจกรรมของบริษัท เป็นต้น)

     (ต) การบังคับสิทธิตามกฎหมายหรือตามสัญญาของบริษัท รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การติดตามทวงถามจำนวนเงินใดๆ ทั้งหมดที่ค้างชำระต่อบริษัท

     (ถ) การอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบทางการเงินที่จะดำเนินการโดยผู้สอบบัญชี หรือการรับบริการที่ปรึกษากฎหมายจากที่ปรึกษากฎหมายที่แต่งตั้งโดยท่านหรือบริษัท

     (ท) การปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของบริษัทภายใต้สัญญาใดๆ ที่บริษัทเป็นคู่สัญญา เช่น สัญญากับพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท ผู้ขาย หรือบริษัทบริหารสินทรัพย์อื่นๆ หรือภายใต้สัญญาที่บริษัททำหน้าที่เป็นตัวแทน

     (ธ) การบริหารจัดการในการเข้าสู่พื้นที่ และ/หรือ ระบบที่สามารถใช้ได้ ของบริษัท รวมถึงการใช้รูปถ่ายของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว

     (น) การติดต่อกับญาติที่ใกล้ชิดและการดูแลรักษาพยาบาลที่เกี่ยวกับการตาย ป่วย หรือบาดเจ็บส่วนบุคคลอันเกิดขึ้นในสถานที่ของบริษัทหรือพื้นที่กิจกรรมของบริษัท (รวมถึงกรณีข้อมูลส่วนบุคคลของญาติใกล้ชิดและข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน)

     (บ) การดำเนินกระบวนพิจารณาทางกฎหมาย (รวมถึงกระบวนพิจารณาทางกฎหมายที่คาดหมายได้) และ

     (ป) การก่อตั้ง ใช้สิทธิ หรือแก้ต่างสิทธิทางกฎหมาย

ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่านจำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท หรือการเข้าทำสัญญากับท่าน บริษัทอาจจะไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่านได้ (หรือไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่านต่อไป) หากบริษัทไม่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อมีการร้องขอ

กรณีลูกค้านิติบุคคล

     (ก) การติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ เช่น การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท อาทิ ด้วยการตอบข้อซักถามหรือการร้องขอ

     (ข) การคัดเลือกลูกค้า เช่น การตรวจสอบตัวตนของท่านและสถานะลูกค้า การตรวจสอบสถานะหรือการตรวจสอบภูมิหลังในรูปแบบอื่นๆ หรือการระบุความเสี่ยงเกี่ยวกับท่านและลูกค้า (รวมถึงการตรวจสอบคัดกรองกับรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนด (sanction lists) ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐและ/หรือที่เป็นทางการซึ่งเปิดเผยเป็นการทั่วไป ตามที่กฎหมายกำหนด) การประเมินความเหมาะสมและคุณสมบัติของท่านและลูกค้า การออกคำขอใบเสนอราคาและการเชิญชวนประกวดราคา การเข้าทำสัญญากับท่านหรือลูกค้า

     (ค) การจัดการข้อมูลลูกค้า เช่น การดำรงและปรับปรุงรายชื่อ/รายนามลูกค้า (รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน) การจัดเก็บสัญญาและเอกสารที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจมีการอ้างถึงท่าน

     (ง) การบริหารความสัมพันธ์ เช่น การวางแผน การดำเนินการ และการบริหารความสัมพันธ์ (ทางสัญญา) กับลูกค้า อาทิ ด้วยการทำธุรกรรมและดำเนินการตามคำสั่งสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการ การประมวลผลการชำระเงิน การดำเนินกิจกรรมด้านการบัญชี การตรวจสอบ การเรียกเก็บเงินและการจัดเก็บเงิน การจัดการด้านการจัดส่งและการส่งมอบ การให้บริการสนับสนุน

     (จ) การวิเคราะห์และปรับปรุงธุรกิจ เช่น การทำวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูล การประเมิน การสำรวจและการรายงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท และผลการดำเนินงานของลูกค้า การพัฒนาและปรับปรุงกลยุทธ์การตลาด และผลิตภัณฑ์และบริการ

     (ฉ) ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสนับสนุน เช่น การจัดหาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสนับสนุนการใช้งานระบบ (helpdesk supports) การสร้างและดำรงรหัสและข้อมูลส่วนตัวสำหรับท่าน การบริหารจัดการการเข้าถึงระบบใดๆ ที่บริษัทได้อนุญาตให้ท่านเข้าถึงได้ การถอนบัญชีที่ไม่มีการใช้งาน (inactive accounts) การดำเนินการควบคุมธุรกิจ (business controls) เพื่อให้ธุรกิจของบริษัทสามารถดำเนินไปได้ และการช่วยให้บริษัทสามารถระบุและแก้ไขปัญหาต่างๆ ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท และการดูแลให้ระบบของบริษัทมีความปลอดภัย การพัฒนา การใช้ การดำเนินงาน และการบำรุงรักษาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

     (ช) การติดตามตรวจสอบความปลอดภัยและระบบ เช่น การยืนยันตัวบุคคล การควบคุมและการบันทึกการเข้าถึงระบบ การติดตามตรวจสอบระบบ อุปกรณ์ และระบบอินเทอร์เน็ต การตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของเทคโนโลยีสารสนเทศ การป้องกันและแก้ไขอาชญากรรม ตลอดจนการบริหารความเสี่ยงและการป้องกันการฉ้อโกง

     (ซ) การจัดการข้อพิพาท เช่น การแก้ไขข้อพิพาท การบังคับสัญญาของบริษัท การกำหนด การใช้หรือการต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

     (ฌ) การสอบสวนภายใน การสอบสวน การป้องกันการร้องเรียนและ/หรืออาชญากรรมหรือการฉ้อโกง

     (ญ) การปฏิบัติตามกฎระเบียบภายในองค์กร เช่น การปฏิบัติตามนโยบายภายในองค์กร และกฎหมาย กฎระเบียบ คำสั่ง และแนวทางของหน่วยงานกำกับดูแลที่มีผลบังคับใช้

     (ฎ) การปฏิบัติตามกฎหมายและหน่วยงานของรัฐ เช่น การประสานงาน การปฏิสัมพันธ์ และการตอบสนองหน่วยงานของรัฐหรือศาล

     (ฏ) วัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การแจ้งข่าวสารและการประชาสัมพันธ์ของบริษัทซึ่งอาจเป็นที่น่าสนใจต่อท่าน กิจกรรมต่างๆ การเสนอบริการใหม่ การทำการสำรวจ

     (ฐ) การปฏิบัติตามข้อกำหนดทางธุรกิจที่สมเหตุสมผล เช่น การจัดการ การฝึกอบรม การตรวจสอบ การรายงาน การควบคุม หรือการบริหารความเสี่ยง สถิติ การวิเคราะห์แนวโน้มและการวางแผน หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหรือคล้ายคลึงกัน

กรณีบุคคลที่ไม่ใช่ลูกค้าของบริษัท

     (ก) เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของผู้ให้บริการภายนอกหรือคู่ค้าต่างๆ ก่อนเข้าทำสัญญาหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งผู้ให้บริการภายนอกหรือคู่ค้าต่างๆ เป็นคู่สัญญากับบริษัท

     (ข) เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามสัญญาระหว่างผู้ให้บริการภายนอกหรือคู่ค้าต่างๆ กับบริษัท เช่น การจัดซื้อ จัดจ้าง ตรวจรับ ชำระค่าสินค้าและบริการ บริหารจัดการความสัมพันธ์ ตรวจสอบและประเมินการทำงานตามข้อตกลงที่กำหนดไว้ในใบสั่งซื้อหรือสัญญาหรือเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

     (ค) เพื่อการบริหารจัดการภายในของบริษัท การจัดการ การพัฒนา การตรวจสอบภายใน และการดำเนินการใดๆ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ ซึ่งรวมถึงการบริหารจัดการและพัฒนาผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ (รวมถึงเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น) การวิจัย เช่น ทำแบบสำรวจหรือแบบสอบถาม การสัมภาษณ์ การตรวจสอบและป้องกันการฉ้อโกง หรืออาชญากรรมอื่นๆ และการบำรุงรักษาระบบสารสนเทศ เป็นต้น

     (ง) เพื่อประโยชน์ทางด้านความปลอดภัย เช่น จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงระบบไอทีสารสนเทศ เช่น การเข้าสถานที่ของบริษัท การเข้าสู่ระบบ (Log in) การเข้าเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่น เป็นต้น

     (จ) เพื่อการติดต่อ แจ้งข่าวสาร หรือสิทธิประโยชน์ผ่านทางหนังสือ จดหมาย โทรศัพท์ โทรสาร อีเมล แอพพลิเคชั่น สื่อสังคม (Social Media) เป็นต้น

     (ฉ) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ กฎเกณฑ์ แนวทาง คำสั่ง คำแนะนำ และการร้องขอจากศาล หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาษีอากร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หรือหน่วยงานอื่นๆ หรือหน่วยงานกำกับดูแล (ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ)

     (ช) เพื่อการจัดการข้อพิพาท เช่น การแก้ไขข้อพิพาท การบังคับสัญญาของบริษัท การกำหนด การใช้หรือการต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

3. วิธีการที่บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทอาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก (รวมถึงบุคลากรและตัวแทนของบุคคลภายนอก) ไม่ว่าภายในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยดังต่อไปนี้ ซึ่งเป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยท่านสามารถอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

     3.1 กลุ่มบริษัท

     เนื่องด้วยบริษัทเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (“กลุ่มกรุงศรี”) บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มกรุงศรี ซึ่งหมายรวมถึง MUFG Bank Ltd. บริษัทในเครือของ MUFG Bank Ltd. และมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป หรืออนุญาตให้บริษัทอื่นๆ ในกลุ่มกรุงศรี เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น

     3.2 ผู้ให้บริการของบริษัท

     บริษัทอาจใช้ตัวแทนหรือผู้รับจ้างภายนอกเพื่อให้บริการแก่บริษัท หรือเพื่อให้บริการต่างๆ ในนามของบริษัท หรือเพื่อช่วยเหลือในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ลูกค้า โดยบริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับผู้ให้บริการเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง (ก) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ (ข) ตัวแทนการวิจัย (ค) ผู้ให้บริการการวิเคราะห์ (ง) ตัวแทนการสำรวจ (จ) ตัวแทนด้านการตลาด สื่อโฆษณาและการติดต่อสื่อสาร (ฉ) ผู้ให้บริการชำระเงิน และ (ช) ผู้ให้บริการด้านธุรการและการดำเนินงานในการให้บริการเหล่านี้ ผู้ให้บริการอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตาม บริษัทจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ให้บริการของบริษัทเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการโดยผู้ให้บริการเหล่านี้ และบริษัทจะขอให้ผู้ให้บริการเหล่านี้ไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการให้เป็นที่มั่นใจว่าผู้ให้บริการทุกรายที่บริษัททำงานด้วยจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้อย่างปลอดภัย

     3.3 พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท

     บริษัทอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่กระทำการในนามของท่าน หรือเกี่ยวข้องในการจัดหาผลิตภัณฑ์หรือบริการประเภทใดที่ท่านได้รับจากบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผู้รับเงิน ผู้รับผลประโยชน์ ผู้แทนในบัญชี (account nominees) ตัวกลาง (เช่น บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นบุคคลภายนอก หรือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน) ผู้รับฝากทรัพย์สิน ธนาคารตัวแทน ตัวแทน ผู้ขาย พันธมิตรธุรกิจร่วม (co-brand partners) คู่สัญญา (market counterparties) ผู้ออกผลิตภัณฑ์ หรือระบบคลังข้อมูลทางการค้าโลก (global trade repositories) ที่บริษัททำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่าน และ/หรือที่ท่านอนุญาตให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

     3.4 บุคคลภายนอกตามที่กฎหมายอนุญาต

     ในบางสถานการณ์ บริษัทอาจจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลภายนอก เพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ ซึ่งรวมถึง การปฏิบัติตามหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานรัฐ หรือบุคคลภายนอกอื่นๆ ในกรณีที่บริษัทเชื่อว่าการเปิดเผยหรือการโอนนั้นจำเป็นเพื่อที่จะปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ หรือเพื่อการปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลอื่น หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคลหรือบุคคลภายนอกใดๆ หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือจัดการเกี่ยวกับปัญหาการฉ้อโกง หรือด้านความมั่นคงหรือความปลอดภัย

     3.5 ที่ปรึกษาวิชาชีพ

     บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังที่ปรึกษาวิชาชีพของบริษัทที่เกี่ยวกับบริการด้านการตรวจสอบ กฎหมาย การบัญชี และภาษีอากร ซึ่งช่วยในการประกอบธุรกิจและแก้ต่าง หรือจัดการเกี่ยวกับข้อเรียกร้องทางกฎหมาย

     3.6 บุคคลภายนอก เช่น ผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอน หรือผู้รับแปลงหนี้

     บริษัทอาจมอบ โอน หรือแปลงหนี้สิทธิหรือภาระผูกพันของบริษัทให้แก่บุคคลภายนอก เพียงเท่าที่ได้รับอนุญาตตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาใดๆ ที่เข้าทำระหว่างท่านกับบริษัท หรือระหว่างลูกค้ากับบริษัท หรือระหว่างนิติบุคคลอื่นกับบริษัท โดยบริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอน หรือผู้รับแปลงหนี้ รวมถึงบุคคลที่อาจเป็นผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอน หรือผู้รับแปลงหนี้

     3.7 บุคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับการโอนธุรกิจ

     บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ลงทุน ผู้ถือหุ้นรายสำคัญ ผู้รับโอนสิทธิ บุคคลที่อาจเป็นผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอนหรือบุคคลที่อาจเป็นผู้รับโอนของบริษัท ในกรณีที่มีการฟื้นฟูกิจการ การปรับโครงสร้างกิจการ การควบรวมกิจการ การเข้าซื้อกิจการ การขาย การซื้อ กิจการร่วมค้า การโอน การเลิกกิจการ หรือเหตุการณ์ใดในทำนองเดียวกันที่เกี่ยวข้องกับการโอนหรือการจำหน่ายจ่ายโอนธุรกิจ สินทรัพย์ หรือหุ้นทั้งหมดหรือส่วนใดๆ ของบริษัท ถ้ามีเหตุการณ์ใดๆ ดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้น

เมื่อบริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอก บริษัทจะดำเนินการเพื่อให้มั่นใจถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น ความตกลงการเก็บรักษาความลับ หรือมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด

4. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านระหว่างประเทศ

     บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือเครื่องแม่ข่ายที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางอาจมี หรืออาจไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลในลักษณะเดียวกันกับประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะโอนอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และการโอนข้อมูลนั้นชอบด้วยกฎหมายโดยอาศัยข้อยกเว้นตามที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย

5. ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

     บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผล เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมาตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายและกฎข้อบังคับต่างๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานขึ้นหากจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ

6. ข้อมูลที่สำคัญอื่นๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

     6.1 คุกกี้และวิธีการใช้คุกกี้

     หากท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลบางประการโดยอัตโนมัติจากท่านโดยการใช้คุกกี้ คุกกี้คือเทคโนโลยีการติดตามประเภทหนึ่งซึ่งนำมาใช้ในการวิเคราะห์กระแสความนิยม (trend) การบริหารจัดการเว็บไซต์ การติดตามการเคลื่อนไหวการใช้เว็บไซต์ของบริษัท หรือเพื่อการจดจำการตั้งค่าของผู้ใช้บริการ อินเตอร์เน็ตเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่จะให้ท่านควบคุมได้ว่าจะยอมรับคุกกี้หรือไม่ หากท่านปฏิเสธการติดตามโดยคุกกี้ ความสามารถของท่านในการใช้งานคุณลักษณะหรือพื้นที่ทั้งหมดหรือบางส่วนของเว็บไซต์อาจถูกจำกัด
ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดนโยบายการใช้คุกกี้ของบริษัทได้ที่ www.krungsricapital.com/th/convention/cookies.aspx

     6.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับผู้เยาว์

     โดยทั่วไป กิจกรรมของบริษัทไม่ได้มีเป้าหมายที่ผู้เยาว์ และบริษัทไม่มีเจตนาจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากลูกค้าซึ่งเป็นผู้เยาว์ (บุคคลซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ (โดยอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์หรือโดยการสมรส) โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองในกรณีที่จำเป็น) หรือจากคนเสมือนไร้ความสามารถหรือคนไร้ความสามารถ โดยไม่ได้รับความยิมยอมจากผู้อนุบาลตามกฎหมาย ถ้าท่านเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถซึ่งประสงค์จะมีความสัมพันธ์ทางสัญญากับบริษัท ท่านต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้อนุบาลตามกฎหมายของท่านก่อนที่จะติดต่อบริษัทหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท ถ้าบริษัททราบว่าบริษัทได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่เจตนาจากผู้เยาว์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองในกรณีที่จำเป็น หรือจากคนเสมือนไร้ความสามารถหรือคนไร้ความสามารถโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้อนุบาลตามกฎหมาย บริษัทจะลบข้อมูลส่วนบุคคลนั้นทันที หรือยังคงประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไปถ้าบริษัทสามารถอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่นนอกจากการขอความยินยอม

     6.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก

     หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามใดๆ (เช่น คู่สมรส บุตร สมาชิกในครอบครัวของท่าน ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้รับผลประโยชน์ รายละเอียดการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน บุคคลที่ถูกอ้างอิงและการอ้างอิง) เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ของบุคคลเหล่านั้น ท่านควรมั่นใจว่าท่านมีอำนาจที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้ อีกทั้งท่านต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลที่สามเหล่านั้นทราบถึงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และขอรับความยินยอมจากบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้อง หากจำเป็น หรืออาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น

7. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ท่านอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

     (ก) การเข้าถึง: ท่านอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผลเกี่ยวกับท่าน

     (ข) การโอนย้ายข้อมูล: ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมีเกี่ยวกับท่านในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้วและสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น

     (ค) การคัดค้าน: ในบางกรณี ท่านอาจมีสิทธิคัดค้านวิธีการที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกิจกรรมซึ่งระบุในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

     (ง) การลบหรือทำลายข้อมูล: ท่านอาจมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทประมวลผลเกี่ยวกับท่าน เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูล เช่น หากข้อมูลนั้นไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลอีกต่อไป เป็นต้น

     (จ) การระงับการใช้ข้อมูล: ท่านอาจมีสิทธิระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านเชื่อว่าข้อมูลนั้นไม่ถูกต้อง หรือการประมวลผลของบริษัทไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือบริษัทไม่จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดอีกต่อไป

     (ฉ) การแก้ไขให้ถูกต้อง: ท่านอาจมีสิทธิขอให้มีการดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน

     (ช) การถอนความยินยอม: ท่านอาจมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้แก่บริษัทเพื่อการประมวผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับสิทธิที่จะถอนความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน และ

     (ซ) การยื่นเรื่องร้องเรียน: ท่านอาจมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในกรณีที่ท่านเชื่อว่าบริษัททำการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้

8. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

     บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นครั้งคราว บริษัทขอแนะนำให้ท่านอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อย่างละเอียดรอบคอบ และตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามข้อกำหนดของประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ที่ www.krungsricapital.com/th/convention/privacy.aspx เป็นระยะๆ โดยบริษัทจะแจ้งเตือนให้ท่านทราบหากมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

9. การติดต่อบริษัท

     หากท่านมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือหากท่านมีข้อสงสัยหรือเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โปรดติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ที่

     (ก) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)

     25 อาคารกรุงเทพประกันภัย ชั้น 15-17 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 โทร 02 638 5500

     (ข) เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

     ที่อยู่อีเมล: dpc@krungsricapital.com



ฉบับมีนาคม 2566


ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ถือหุ้นและผู้ถือหุ้นกู้


บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") เล็งเห็นถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้นและผู้ถือหุ้นกู้ (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมกันว่า “ท่าน”) จึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ถือหุ้นและผู้ถือหุ้นกู้ ("ประกาศความเป็นส่วนตัว") ฉบับนี้ขึ้น เพื่ออธิบายถึงวิธีการที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ดังนี้

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ

     1.1 ผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ ผู้รับมอบอำนาจหรือผู้รับมอบฉันทะ

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ รวมถึงผู้รับมอบอำนาจหรือผู้รับมอบฉันทะ เมื่อมีการจองซื้อ การเข้าเป็นผู้ถือหุ้น หรือเป็นผู้ถือหุ้นกู้ โดยจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง รวมทั้งผ่านทางนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (Broker) หรือนายทะเบียนหลักทรัพย์ โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่จะเก็บรวบรวมนั้น ได้แก่ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ช่องทางการติดต่อ อาชีพ วันเดือนปีเกิด เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง เลขทะเบียนนิติบุคคล สัญชาติ บัญชีธนาคาร จำนวนหุ้น เป็นต้น

     1.2 เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ของบริษัท บริษัทอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม โดยในกรณีที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านเป็นกรณีไป

     1.3 บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายจัดประเภทแยกออกมาเป็นพิเศษ (“ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว”) โดยบริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของท่านไปยังต่างประเทศก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือเป็นกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน โดยข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของท่าน ซึ่งบริษัทอาจเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ ได้แก่

          (ก) ข้อมูลชีวภาพ (ได้แก่ ระบบจดจำใบหน้า ลายนิ้วมือ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการยืนยันตัวตนและพิสูจน์ ตัวตนหรือในการทำธุรกรรมใดๆ ของท่านผ่านช่องทางหรืออุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัท

          (ข) ข้อมูลสุขภาพเท่าที่จำเป็นเพื่อการตรวจสอบข้อจำกัดในการสื่อสาร หรือการตัดสินใจ หรือภาวะความ บกพร่องทางสุขภาพเพื่อให้บริษัทใช้เป็นข้อมูลในการสรรหา คัดกรองประวัติหรือคุณสมบัติ และการ ติดตามตรวจสอบ

          (ค) ข้อมูลประวัติอาชญากรรม เพื่อประโยชน์สาธารณะในการป้องกันและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจาก การกระทำต่างๆ ที่ผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงิน การก่อการร้าย หรือการฉ้อโกงประชาชน และ

          (ง) ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ ศาสนา หรือหมู่โลหิต เพียงเท่าที่ปรากฏในบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสาร ประจำตัวของท่าน เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือ การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลที่มีความอ่อนไหวไปยังต่างประเทศเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น โดยจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของท่าน

2. วัตถุประสงค์ที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

     บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

     2.1 เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การบริหารจัดการบริษัท (เช่น การเริ่มตั้ง การเพิ่มทุน ลดทุน การปรับโครงสร้างกิจการ การเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียน) การประชุมผู้ถือหุ้น การจัดการเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของผู้ถือหุ้นหรือผู้ถือหุ้นกู้ การจ่ายเงินปันผล การจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ การจัดทำรายงานการตรวจสอบทางบัญชีและทางกฎหมาย การจัดส่งเอกสารหรือหนังสือต่างๆ รวมถึงหน้าที่ตามกฎหมายต่างๆ ของการเป็นบริษัทมหาชนจำกัด หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นต้น

     2.2 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลอื่น เช่น การบริหารจัดการบริษัท การบันทึกภาพหรือเสียงการประชุม การตรวจสอบภายใน การรักษาความปลอดภัย การจัดกิจกรรม หรือการส่งข่าวสารหรือข้อเสนอใดๆ เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้น หรือผู้ถือหุ้นกู้ รวมถึงเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย

     2.3 เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมโรคติดต่อ

     2.4 เพื่อวัตถุประสงค์ในการกำกับดูแลและการตรวจสอบภายในตามมาตรฐานของบริษัทแม่ บริษัทในเครือ หรือบริษัทในกลุ่มกรุงศรี พัฒนสิน ในกรณีที่ท่านไม่ให้ข้อมูลบางอย่างแก่บริษัทเมื่อมีการร้องขอ อาจมีผลกระทบต่อการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางสัญญาหรือทางกฎหมายของบริษัท ซึ่งอาจกระทบต่อกระบวนการสรรหา การจัดการเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของผู้ถือหุ้นหรือผู้ถือหุ้นกู้ เป็นต้น นอกจากนี้ ในกรณีที่บริษัทอาศัยฐานความยินยอมของท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของท่านไปยังต่างประเทศ ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่าน ณ เวลาใดก็ได้ โดยท่านสามารถติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยและ/หรือการโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของท่านไปยังต่างประเทศ ที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนที่จะขอถอน

3. วิธีการที่บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

     บริษัทอาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก (รวมถึงบุคลากรและตัวแทนของบุคคลภายนอก) ไม่ว่าภายในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยดังต่อไปนี้ ซึ่งเป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยท่านสามารถอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

     3.1. กลุ่มบริษัท

     เนื่องด้วยบริษัทเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (“กลุ่มกรุงศรี”) บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มกรุงศรี ซึ่งหมายรวมถึง MUFG Bank Ltd. บริษัทในเครือของ MUFG Bank Ltd. และมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป หรืออนุญาตให้บริษัทอื่นๆ ในกลุ่มกรุงศรี เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น

     3.2. ผู้ให้บริการของบริษัท

     บริษัทอาจใช้ตัวแทนหรือผู้รับจ้างเพื่อการให้บริการต่างๆ ในนามของบริษัท เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับประชุมหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ท่านเข้าร่วม โดยบริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับผู้ให้บริการเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง (ก) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ (ข) ผู้ให้บริการการวิเคราะห์ (ค) ผู้ให้บริการชำระเงิน และ (ง) ผู้ให้บริการด้านธุรการและการดำเนินงาน ในการให้บริการเหล่านี้ ผู้ให้บริการอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตาม บริษัทจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ให้บริการของบริษัทเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการโดยผู้ให้บริการเหล่านี้ และบริษัทจะขอให้ผู้ให้บริการเหล่านี้ไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการให้เป็นที่มั่นใจว่าผู้ให้บริการทุกรายที่บริษัททำงานด้วยจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้อย่างปลอดภัย

     3.3. พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท

     บริษัทอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่กระทำการในนามของท่าน ซึ่งรวมถึงผู้รับเงิน ผู้รับผลประโยชน์ ผู้แทนในบัญชี (account nominees) ตัวกลาง (เช่น บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นบุคคลภายนอก หรือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน) ผู้รับฝากทรัพย์สิน ธนาคารตัวแทน ตัวแทน ผู้ขาย คู่สัญญา (market counterparties) ที่เกี่ยวข้องกับการถือหุ้น หรือหุ้นกู้ และที่ท่านอนุญาตให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ แต่ทั้งนี้ผู้รับข้อมูลเหล่านี้ต้องตกลงที่จะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

     3.4. บุคคลภายนอกตามที่กฎหมายอนุญาต

     ในบางสถานการณ์ บริษัทอาจจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลภายนอก เพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ ซึ่งรวมถึง การปฏิบัติตามหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานรัฐ (เช่น กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด) หรือบุคคลภายนอกอื่นๆ ในกรณีที่บริษัทเชื่อว่าการเปิดเผยหรือการโอนนั้นจำเป็นเพื่อที่จะปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ หรือเพื่อการปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลอื่น หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคลหรือบุคคลภายนอกใดๆ หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือจัดการเกี่ยวกับปัญหาการฉ้อโกง หรือด้านความมั่นคงหรือความปลอดภัย

     3.5. ที่ปรึกษาวิชาชีพ

     บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังที่ปรึกษาวิชาชีพของบริษัทที่เกี่ยวกับบริการด้านการตรวจสอบ กฎหมาย การบัญชี และภาษีอากร ซึ่งช่วยในการประกอบธุรกิจและแก้ต่าง หรือจัดการเกี่ยวกับข้อเรียกร้องทางกฎหมาย

     3.6. บุคคลภายนอก เช่น ผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอน หรือผู้รับแปลงหนี้

     บริษัทอาจมอบ โอน หรือแปลงหนี้สิทธิหรือภาระผูกพันของบริษัทให้แก่บุคคลภายนอก เพียงเท่าที่ได้รับอนุญาตตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาใดๆ ที่เข้าทำระหว่างท่านกับบริษัท บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอน หรือผู้รับแปลงหนี้ รวมถึงบุคคลที่อาจเป็นผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอน หรือผู้รับแปลงหนี้ แต่ทั้งนี้ผู้รับข้อมูลเหล่านี้ต้องตกลงที่จะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

     3.7. บุคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับการโอนธุรกิจ

     บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ลงทุน ผู้ถือหุ้นรายสำคัญ ผู้รับโอนสิทธิ บุคคลที่อาจเป็นผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอนหรือบุคคลที่อาจเป็นผู้รับโอนของบริษัท ในกรณีที่มีการฟื้นฟูกิจการ การปรับโครงสร้างกิจการ การควบรวมกิจการ การเข้าซื้อกิจการ การขาย การซื้อ กิจการร่วมค้า การโอน การเลิกกิจการ หรือเหตุการณ์ใดในทำนองเดียวกันที่เกี่ยวข้องกับการโอนหรือการจำหน่ายจ่ายโอนธุรกิจ สินทรัพย์ หรือหุ้นทั้งหมดหรือส่วนใดๆ ของบริษัท ถ้ามีเหตุการณ์ใดๆ ดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้น ผู้รับข้อมูลจะปฏิบัติตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ในส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

4. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

     บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือเครื่องแม่ข่ายที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางอาจมี หรืออาจไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลในลักษณะเดียวกันกับประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะโอนอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และการโอนข้อมูลนั้นชอบด้วยกฎหมายโดยอาศัยข้อยกเว้นตามที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย

5. ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

     บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผล เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมาตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายและกฎข้อบังคับต่างๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานขึ้นหากจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ

6. ข้อมูลที่สำคัญอื่นๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

     6.1. คุกกี้และวิธีการใช้คุกกี้

     หากท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลบางประการโดยอัตโนมัติจากท่านโดยการใช้คุกกี้ คุกกี้คือเทคโนโลยีการติดตามประเภทหนึ่งซึ่งนำมาใช้ในการวิเคราะห์กระแสความนิยม (trend) การบริหารจัดการเว็บไซต์ การติดตามการเคลื่อนไหวการใช้เว็บไซต์ของบริษัท หรือเพื่อการจดจำการตั้งค่าของผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่จะให้ท่านควบคุมได้ว่าจะยอมรับคุกกี้หรือไม่ หากท่านปฏิเสธการติดตามโดยคุกกี้ ความสามารถของท่านในการใช้งานคุณลักษณะหรือพื้นที่ทั้งหมดหรือบางส่วนของเว็บไซต์อาจถูกจำกัด

     6.2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก

     หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามใดๆ (เช่น คู่สมรส บุตร สมาชิกในครอบครัวของท่าน ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้รับผลประโยชน์ รายละเอียดการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน บุคคลที่ถูกอ้างอิงและการอ้างอิง) เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ของบุคคลเหล่านั้น ท่านควรมั่นใจว่าท่านมีอำนาจที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้ อีกทั้งท่านต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลที่สามเหล่านั้นทราบถึงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และขอรับความยินยอมจากบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้อง หากจำเป็น หรืออาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น

7. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

     ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ท่านอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

     (ก) การเข้าถึง: ท่านอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผลเกี่ยวกับท่าน

     (ข) การโอนย้ายข้อมูล: ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมีเกี่ยวกับท่านในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้วและสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น

     (ค) การคัดค้าน: ในบางกรณี ท่านอาจมีสิทธิคัดค้านวิธีการที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกิจกรรมซึ่งระบุในประกาศฉบับนี้

     (ง) การลบหรือทำลายข้อมูล: ท่านอาจมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทประมวลผลเกี่ยวกับท่าน เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูล เช่น หากข้อมูลนั้นไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลอีกต่อไป เป็นต้น

     (จ) การระงับการใช้ข้อมูล: ท่านอาจมีสิทธิระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านเชื่อว่าข้อมูลนั้นไม่ถูกต้อง หรือการประมวลผลของบริษัทไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือบริษัทไม่จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดอีกต่อไป

     (ฉ) การแก้ไขให้ถูกต้อง: ท่านอาจมีสิทธิขอให้มีการดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน

     (ช) การถอนความยินยอม: ท่านอาจมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้แก่บริษัทเพื่อการประมวผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับสิทธิที่จะถอนความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน

     (ซ) การยื่นเรื่องร้องเรียน: ท่านอาจมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในกรณีที่ท่านเชื่อว่าบริษัททำการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้

     8. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

     บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นครั้งคราว บริษัทขอแนะนำให้ท่านอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อย่างละเอียดรอบคอบ และตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามข้อกำหนดของประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ที่ www.krungsricapital.com เป็นระยะๆโดยบริษัทจะแจ้งเตือนให้ท่านทราบหากมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

     9. การติดต่อบริษัท

     หากท่านมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือหากท่านมีข้อสงสัยหรือเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โปรดติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ที่

     (ก) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)

     25 อาคารกรุงเทพประกันภัย ชั้น 15-17 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 โทร 02 638 5500

     (ข) เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

     ที่อยู่อีเมล: dpc@krungsricapital.com



ฉบับมีนาคม 2566